การขอใบขับขี่สาธารณะในประเทศไทย

18 พ.ย. 2565

ณ ปัจจุบัน กรมการขนส่งทางบก (DLT) มีการเปลี่ยนแปลงมาตรการสำหรับการบริการขนส่งผู้โดยสารอยู่เสมอโดยเฉพาะมาตรการให้คนขับยานพาหนะมีใบขับขี่สาธารณะเพื่อรับส่งผู้โดยสาร ดังนั้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าท่านจะสามารถขับขี่อย่างราบรื่นไร้ซึ่งปัญหา โบลต์ จึงขอแชร์วิธีการขอใบขับขี่สาธารณะในประเทศไทยในบทความนี้

อ้างอิงจากกรรมการขนส่งทางบกเรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับใบขับขี่ตามพ.ร.บ.รถยนต์ ผู้ขับขี่จะต้องมีคุณสมบัติตามด้านล่างนี้ในการขอรับใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ 

  • ต้องได้รับใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ใบขับขี่รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลชั่วคราว หรือใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว แล้วแต่กรณี ที่ได้รับมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
  • ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 46
  • ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษ หรือถูกเจ้าพนักงานเปรียบเทียบปรับตั้งแต่สองครั้งขึ้นไป สำหรับความผิดเกี่ยวกับการขับรถอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ เว้นแต่จะพ้นโทษครั้งสุดท้าย ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • มีสัญชาติไทย
  • รู้จักถนนและทางหลวงในจังหวัดที่ขอรับใบขับขี่พอสมควร
  • ไม่เป็นผู้มีโรคติดต่อน่ารังเกียจตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
  • ไม่เป็นผู้ติดสุรายาเมาหรือยาเสพติดให้โทษ
  • ไม่เคยเป็นผู้ได้รับโทษจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิด ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ หรือความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา ความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกาย ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ความผิดฐานรับของโจร และความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิด เกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี (ในกรณีที่เป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามข้อนี้) 

หากคนขับมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดข้างบนทั้งหมด คนขับสามารถขอรับใบขับขี่รถยนต์สาธารณะได้ตามขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: รวบรวมเอกสารที่จำเป็นในการขอรับใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ

  • บัตรประชาชนฉบับจริง
  • ใบขับขี่รถยนต์ หรือ ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ใบขับขี่รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลชั่วคราว หรือใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว แล้วแต่กรณี ที่ได้รับมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
  • ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน ตามรูปแบบที่แพทยสภากำหนด (ตัวอย่างใบรับรองแพทย์ กดที่นี่)

ขั้นตอนที่ 2: ลงทะเบียนขอคำร้องและสมัครเช้ารับการอบรมขอใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ

  • การอบรมออนไลน์ (แนะนำ)
    • ลงทะเบียนและกรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก: https://www.dlt-elearning.com/registerTH
    • ลงทะเบียนเข้าคอร์สอบรมออนไลน์เพื่อรับใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ (ขั้นตอนนี้จำกัดเวลาเพียง 90 วันหลังจากลงทะเบียน)
    • เลือกประเภทของยานพาหนะสำหรับการขอใบขับขี่สาธารณะ
    • เข้าอบรมออนไลน์ทั้งหมด 17 คอร์ส ประกอบไปด้วย
      • การฝึกอบรมภาคบังคับ
      • การฝึกอบรบเกี่ยวกับสภานที่ท่องเที่ยวและเส้นทางการเดินทาง
      • การฝึกอบรมภาษาอังกฤษสำหรับผู้ขับขี่รถสาธารณะ
      • การฝึกอบรมการให้บริการ
    • เข้าอบรมคอร์สทั้งหมดสำหรับขั้นตอนถัดไป
    • เมื่อเข้ารับการฝึกอบรมครบทั้งหมด ท่านจะได้รับคิวอาร์โค้ดในการรับรองการฝึกอบรม (มีอายุ 180 วันหลังจากการฝึกอบรมครบ)
    • เดินทางไปศูนย์ของกรมการขนส่งทางบกตามวันที่นัดหมาย
    • เข้ารับการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
      • ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
      • ทดสอบสายตาทางลึก
      • ทดสอบสายตาทางกว้าง
      • ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรคเท้า)
    • เข้ารับการทดสอบภาคทฤษฎี (ข้อเขียน)
      • ท่านจะต้องผ่านทั้งหมด 90% สำหรับภาคทฤษฎี
    • เข้ารับการทดสอบภาคปฏิบัติ
  • การอบรมออฟไลน์ (อบรมที่ศูนย์กรมการขนส่งทางบก)
    • นัดหมายสำหรับวันเวลาที่อบรมรวมถึงสภานที่อบรมผ่านเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th/login
    • ท่านจะได้รับคิวอาร์โค้ดเพื่อใช้ยืนยันสำหรับวัน เวลาและสถานที่ฝึกอบรม
    • ดินทางไปศูนย์ของกรมการขนส่งทางบกตามวันที่นัดหมาย
    • เข้ารับการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
      • ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
      • ทดสอบสายตาทางลึก
      • ทดสอบสายตาทางกว้าง
      • ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรคเท้า)
    • เข้ารับการทดสอบภาคทฤษฎี (ข้อเขียน)
      • ท่านจะต้องผ่านทั้งหมด 90%สำหรับภาคทฤษฎี
    • เข้ารับการทดสอบภาคปฏิบัติ

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบประวัติอาชญากร

  • หลังจากได้รับการยืนยันในการฝึกอบรมจากกรมการขนส่งทางบก ท่านจะได้รับเอกสารคำขอร้องเพื่อไปตรวจสอบประวัติอาชญากรที่สถานีตำรวจ
  • ลงทะเบียนสำหรับขั้นตอนการตรวจประวัติอาชญากรที่เว็บไซต์ https://www.crd-check.com/bg/landing
  • เอกสารที่จำเป็น
    • บัตรประชาชนตัวจริง
    • รูปถ่ายของตนเองที่ถือใบขับขี่ตัวจริง
  • การตรวจประวัติอาชญากรใช้เวลาประมาณ 7 – 15 วันทำการ และมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 110 บาทต่อเอกสารรับรอง 1 ฉบับ
  • ท่านสามารถรับเอกสารตรวจสอบประวัติอาชญากรเมื่อเสร็จแล้วที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ข้อมูลเพิ่มเติม กดที่นี่) ตามวันและเวลาที่นัดหมาย

ขั้นตอนที่ 4: จ่ายเงินและรับใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ

  • นำเอกสารตรวจสอบประวัติอาชญากรที่ตรวจเสร็จแล้วส่งให้กับเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก
  • ชำระค่าธรรมเนียมเพื่อรับใบขับขี่รถยนต์สาธารณะภายในเวลา 15.30 น. (ค่าธรรมเนียมสามารถดูได้จากเว็บไซต์) http://www.dlt.go.th/site/skp1/m-news/720/view.php?_did=10840)
    • 150 บาท สำหรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ
    • 150 บาท สำหรับรถยนต์สามล้อสาธารณะ
    • 300 บาท สำรับรถยนต์สาธารณะ
    • 20 บาท สำหรับบัตรประจำตัวผู้ขับรถยนต์สาธารณะแบบพลาสติก
    • 25 บาท สำหรับบัตรประจำตัวผู้ขับรถยนต์สาธารณะ หรือ บัตรเหลือง (ตัวอย่าง กดที่นี่)
  • ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
  • รับใบขับขี่

ขั้นตอนที่ 5: อัพโหลดใบขับขี่รถยนต์สาธารณะของท่านในแอพพลิเคชั่นโบลต์

ท่านสามารถอัพโหลดใบขับขี่สาธารณะของท่านผ่านโปรไฟล์ของท่านในโบลต์ ซึ่งยานพาหนะที่ท่านใช้รับส่งผู้โดยสารจะต้องเป็นประเภทเดียวกันกับประเภทรถยนต์ที่ได้รับอนุญาตในใบขับขี่สาธารณะ เช่น หากท่านต้องการขับขี่รถจักรยานยนต์สำหรับรับส่งผู้โดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นโบลต์ ท่านจะต้องอัพโหลตใบขับขี่ส่วนตัวหรือใบขับขี่สาธารณะสำหรับรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้หากรถที่ท่านใช้เป็นรถยนต์สาธารณะหรือแท็กซี่ โปรดใช้ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะในการอัพโหลด

ตัวอย่างของใบขับขี่แต่ละประเภทสามารถตรวจสอบได้ด่านล่าง

ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล

ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะหรือแท็กซี่

ใบขับขี่รถยนต์แบบตลอดชีพ

Recent posts

ปลดล็อคสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติมกับโบลท์รีวอร์ดส (Bolt Rewards)

18 พ.ย. 2567

ปลดล็อคสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติมกับโบลท์รีวอร์ดส (Bolt Rewards)

18 พ.ย. 2567

Bolt Rewards คือโปรแกรมสะสมรางวัลที่จะช่วยคนขับประหยัดเงินพร้อมกับทำให้การขับขี่ของคุณสมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ  มากมาย Bolt Rewards เป็นการมอบสิทธิประโยชน์พิเศษ และส่วนลดต่าง ๆ ให้กับคนขับของโบลท์ หากคนขับมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดตามรายละเอียดซึ่งแสดงอยู่ในแอปพลิเคชัน คุณจะมีสิทธิ์ได้รับ Bolt Rewards  และสามารถได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ คุณสามารถตรวจสอบระดับ และสิทธิพิเศษของคุณได้ง่าย ๆ อีกด้วย อ่านต่อ เพื่อดูวิธีการทำงานของ Bolt Rewards และวิธีการได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ Bolt Rewards คืออะไร? Bolt Rewards […]

แอปพลิเคชัน Bolt ให้คุณรีไซเคิลขยะในบ้านได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

23 ต.ค. 2567

แอปพลิเคชัน Bolt ให้คุณรีไซเคิลขยะในบ้านได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

23 ต.ค. 2567

บริการ Bolt Send ช่วยให้คุณส่งขยะรีไซเคิลที่เป็นขยะแห้งและไม่เป็นอันตรายได้ถึง 20 กิโลกรัม ไปยังจุดรับขยะในกรุงเทพฯ โดยมีพาร์ทเนอร์คนขับไปรับขยะจากที่อยู่ของคุณและนำไปยังจุดรับขยะ หากคุณอาศัยอยู่ภายในระยะ 8 กิโลเมตรจากจุดรับขยะ บริการนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย — แต่หากคุณอาศัยอยู่นอกระยะนี้ คุณจะได้รับส่วนลดค่าจัดส่ง 60 บาท นอกจากนี้คุณยังจะได้รับส่วนลด 20% สำหรับการใช้บริการรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ Bolt ครั้งถัดไปอีก 2 ครั้ง วิธีใช้บริการ:1.เปิดแอป Bolt  2.กดรับคูปองส่งขยะรีไซเคิลฟรี โดย Bolt Send […]

เซลฟี่เพื่อความปลอดภัย: ฟีเจอร์ยืนยันตัวตนผู้โดยสารใหม่ของ Bolt

17 ก.ย. 2567

เซลฟี่เพื่อความปลอดภัย: ฟีเจอร์ยืนยันตัวตนผู้โดยสารใหม่ของ Bolt

17 ก.ย. 2567

อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับฟีเจอร์นี้และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ที่มีอยู่ในแอป Bolt การยืนยันตัวตนผู้โดยสารทำงานอย่างไร? เพื่อความปลอดภัย โดยปกติแล้วเราจะยืนยันตัวตนผู้ขับขี่ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มขับบนแพลตฟอร์มของเรา และในทำนองเดียวกัน เราจะขอให้ผู้โดยสารยืนยันตัวตนด้วย ผู้โดยสารสามารถเริ่มกระบวนการยืนยันตัวตนโดยแตะที่แบนเนอร์การยืนยันตัวตนในแอป หรือแตะที่ข้อความการเตือนเมื่อมีการเดินทางครั้งแรก เพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ทำไมถึงต้องยืนยันตัวตนผู้โดยสาร? การยืนยันตัวตนผู้โดยสารเป็นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ผู้ขับขี่ Bolt เรียกร้องมากที่สุด เราต้องการให้ทุกคนบนแพลตฟอร์มรู้สึกปลอดภัยและได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม ฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มความไว้วางใจระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ส่งผลให้ผู้ขับขี่ยอมกดรับงานมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เวลาการมาถึงของรถเร็วขึ้นสำหรับผู้โดยสาร จากการทดสอบเบื้องต้น เราพบว่าจำนวนเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ผู้ขับขี่รายงานสำหรับการเดินทางกับผู้โดยสารที่ได้รับการยืนยันตัวตนนั้นลดลง ความมุ่งมั่นในความปลอดภัยของเรา จากผู้ใช้กว่า 200 ล้านคน และเครือข่ายผู้ขับและพาร์ทเนอร์มากกว่า 4.5 ล้านคน […]